จะเป็นอย่างไรเมื่อเข้าสู่ยุคที่หุ่นยนต์มาแย่งงานของเรา
จะอีกนานเพียงไหนกันที่ระบบอัตโนมัติทั้งหลายจะทำงานแทนมนุษย์และสามารถทำได้ดีกว่า ในอดีตการใช้เครื่องจักรมาทำงานแทนคนอาจจะหมายถึงแค่การใช้มันทำงานง่ายๆ ซ้ำๆ และไม่ซับซ้อน เช่นงานในโรงงานต่างๆ มาถึงยุคปัจจุบันระบบอัตโนมัติต่างๆ มันสามารถทำสิ่งต่างๆแม้กระทั่งจอดเครื่องบิน ตรวจหามะเร็ง หรือซื้อขายหุ้นในตลาด ซึ่งหมายถึงมนุษย์เรานั้นได้ก้าวเข้ามาสู่ยุคอัตโนมัติยุคใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการศึกษาเมื่อปี 2013 กว่าครึ่งของตำแหน่งงานในสหรัฐอเมริกา สามารถถูกทดแทนโดยการใช้ระบบอัตโนมัติต่างๆ ภายใน 2ทศวรรศข้างหน้า ซึ่งบางคนอาจจะถามว่าพวกระบบอัตโนมัติต่างๆก็มีมากว่าทศวรรศแล้วไม่ใช่หรือ แล้วปัจจุบันหรืออนาคตอันใกล้นี้จะต่างกันอย่างไร ?
ในอดีตนวัตกรรมต่างๆช่วยทุ่นแรงให้มนุษย์ ทำให้มนุษย์ทำงานได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ซึ่งทำให้งานบางส่วนที่เครื่องจักรเหล่านี้มาช่วยหายไป แต่ตรงกันข้ามกลับสร้างงานที่ดีกว่า(ที่ไม่ต้องใช้แรงงานหรือทำซ้ำๆ) ซึ่งเปนสิ่งที่ดีเนื่องจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นต้องการงาน นั่นแปลว่าเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ๆย่อมส่งผลให้ผลผลิตที่ได้จากงานมากขึ้นเช่นกัน
ย้อนไปเมื่ออดีต เริ่มแรกมนุษย์ทำงานเกี่ยวกับเกษตรกรรม(Agricultural Age) เมื่อมาถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial Revolution Age) มนุษย์ก็มาทำงานประเภทโรงงาน และเมื่อระบบอัตโนมัติต่างๆแพร่หลายและเข้ามามีส่วนในชีวิตมากขึ้น มนุษย์ก็เปลี่ยนมาทำงานบริการแทน จนมาถึงปัจจุบันซึ่งเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร(Infomation Age) ซึ่งสิ่งต่างๆได้เปลี่ยนไปอย่างมากทำให้งานที่มนุษย์เคยทำ ถูกทดแทนด้วยเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับอดีต
เพื่อให้เห็นภาพ เมื่อปี 1979 บริษัท General Motors เคยจ้างพนักงานมากกว่า 800,000 คน และบริษัทมีผลประกอบการ 1.1หมื่นล้านดอลล่า ปี 2012 บริษัท Google มีผลประกอบการกว่า1.4หมื่นล้านดอลล่า ในขณะที่จ้างพนักงานเพียง 58,000 คน
หรือถ้าจะพูดถึงอินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตนั้นอาจจะสร้างงานใหม่ขึ้นมาก้จริง แต่งานที่เกิดขึ้นจากอินเตอร์เน็ตนี้ไม่สามารถก้าวตามการเพิ่มขึ้นของประชากรหรือแม้แต่สร้างงานให้มากกว่างานที่อินเตอร์เน็ตได้ทำให้หมดไป ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปี2004 บริษัท Blockbuster มีพนักงานกว่า 84,000 คนและมีผลประกอบการ 6หมื่นล้านดอลล่า เปรียบเทียบกับ Netflix ในปี 2014 ที่มีพนังงานเพียงแค่ 4,500 คน แต่กลับทำเงินได้กว่า 9หมื่นล้านดอลล่า เช่นเดียวกันกับผู้ทำรายการใน Youtube ชื่อ Kurzgesagt มีทีมงาน เพียง 12 คนก็สามารถทำรายการที่มีให้ผู้ชมหลายล้านคน ซึ่งรายการโทรทัศน์ปกตินั้นเพื่อที่จะมีผู้ชมรายการเท่ากันกับ Kurzgesagt ต้องใช้คนมากกว่าหลายเท่า
สรุปได้ว่านวัตกรรมใหม่ต่างๆในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารนี้ ไม่แปรผันตามการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยที่นวัตกรรมค่อยๆมาแย่งงานของมนุษย์ไป ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆและเรียนรู้สิ่งต่างๆจากข้อมูลนั้นๆ เช่น เมื่อเราซื้อของออนไลน์ต่างๆ ระบบเหล่านี้จะจดจำพฤติกรรมของเราและนำของเหล่านั้นมาโฆษณาเพื่อให้เราซื้อต่อไป โดยที่มนุษย์บางส่วนไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้เลย ซึ่งอนาคตข้างหน้างานอาจจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และอาจจะทำให้ช่องว่างระหว่างคนจนและรวยยิ่งมากขึ้น อย่างไรก็ตามบางส่วนเชื่อว่านวัตกรรมในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมมนุษย์ รวมถึงการลดลงของความยากจนและความไม่เท่าเทียม
ที่มา: Kurzgesagt – In a Nutshell
เรียบเรียง: SignorScience