กัญชากับโรคลมชักรุนแรงที่อันตรายถึงชีวิต

ในการศึกษาใหม่เกี่ยวกับ แคนนาบิไดอัล Cannabidiol (CBD) ซึ่งเป็นส่วนของต้นกัญชาไม่ส่งผลกระทบทางจิต มันช่วยต่อสู้กับอาการชักในกลุ่มอาการโรคลมชักอย่างรุนแรง ( Dravet Syndrome ) จากผู้ที่เคยใช้ เพราะ CBD ไม่ทำให้เกิดอาการมึนเมา มันอาจช่วยเลี่ยงปัญหาด้านจริยธรรมเกี่ยวกับกัญชาในทางการแพทย์ได้

การศึกษาพบว่า Cannabidiol (CBD) ซึ่งเป็นสารที่พบในกัญชา แต่ไม่ก่อให้เกิดความมึนเมาเหมือนต้นกัญชาทีเคยได้ยินกันมา ทำให้สามารถลดอาการชักได้ของผู้ป่วยจากโรคลมชักอย่างรุนแรง (Dravet Syndrome)ในการสุ่มทดสอบในกลุ่มที่ไม่เปิดเผย CBD แสดงให้เห็นว่าอาการชักลดลงกว่า 23% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ผลการวิจัยนี้สอดคล้องกับตัวอย่างซึ่งรวมถึงผู้เข้าร่วมที่มีอายุระหว่าง 2 ถึง 18 ปี แม้ว่า 93% ของเด็กที่ได้รับ CBD อาจจะมีผลข้างเคียงที่ไม่ดี ได้แก่ อาการท้องร่วง เมื่อยล้า ปัญหาตับและอาเจียน แต่75% ของผู้ที่ได้รับยาหลอกก็มีอาการเช่นกัน

แม้จะมีผลข้างเคียง แต่นี่เป็นการรักษาที่มีแนวโน้มที่ดีสำหรับเด็กที่ป่วยจากโรคลมชักรุนแรง Dravet Syndrome จนถึงปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดที่จะรักษาโรคนี้ได้ และถึงหนึ่งในห้าของเด็กที่เป็นโรคนี้จะเสียชีวิตเมื่ออายุ 20 ปี ดังนั้นการค้นพบใดๆทางการรักษาจะเป็นก้าวที่สำคัญมาก

อย่างไรก็ตาม ดร.Orrin Devinsky หัวหน้าการศึกษาและผู้อำนวยการศูนย์โรคลมชักของ NYU Langone มั่นใจว่าจะทำความคาดหวังเกี่ยวกับงานวิจัยของเขาให้สำเร็จได้ เขาได้กล่าวกับ CNN ว่า “CBD เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรคลมชักที่หายากชนิดนี้ แต่มันไม่ใช่ยาครอบจักรวาล (หรือรักษาได้ทั้งหมด) สำหรับเด็กเหล่านี้

งานวิจัยชิ้นนี้มีความเป็นไปได้ในการช่วยบำบัดโรคลมชัก ซึ่ง CBD เป็นตัวหลักในการโต้แย้งเกี่ยวกับการใช้กัญชาในทางแพทย์ เพราะมันสกัดออกมาได้และไม่ก่อให้เกิดอาการเมา

ความขัดแย้งในการใช้กัญชาเป็นยาก่อนหน้านี้มุ่งอยู่กับข้อครหา เนื่องจาก tetrahydrocannabinol (THC) ในยาทำให้ผู้ใช้มีอาการเมา ถ้ามีข้อพิสูจน์ใดๆยืนยันได้ว่า CBD มีประสิทธิภาพในตัวเอง จะลบความกังวลดังกล่าวและอาจช่วยให้การรักษาสามารถข้ามผ่านอุปสรรคทางกฎหมายในปัจจุบัน และเร่งกระบวนการรับยาให้กับผู้ป่วยที่ต้องการได้

ที่มา: Futurism
เรียบเรียง: SignorScience