เมื่อก่อนมนุษย์เราเคยเดินในลักษณะที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิงจนกระทั่งมีนวัตกรรมรองเท้าเข้ามา
มนุษย์ไม่ได้เดินในแบบที่เราทำกันทุกวันนี้ ถ้าไม่ได้ใส่รองเท้าหรือเดินเท้าเปล่า เราจะเดินไปในวิธีทางที่แตกต่างออกไป
ลองนึกถึงเวลาที่คุณเดินด้วยเท้าเปล่า เท้าจะวางราบเรียบไปกับพื้น ขณะที่ก้าวมันจะเคลื่อนไปตามขั้นตอนและนิ้วเท้าจะเป็นส่วนสุดท้ายที่ดันตัวออกไป มนุษย์เดินในลักษณะแบบนี้มาหลายพันปี การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการเดินเท้าเปล่าทำให้เกิดความตึงที่หัวเข่าน้อยกว่า
รองเท้าในช่วงเริ่มแรก คือการห่อหุ้มเท้าด้วยหนังหรือผ้านุ่มๆชิ้นเดียว ซึ่งยังคงปล่อยให้มนุษย์เดินตามลักษณะธรรมชาติได้ แต่รองเท้าสมัยใหม่ได้เปลี่ยนแบบแผนทั้งหมดนี้ ด้วยการสร้างพื้นรองเท้าที่หนาขึ้นมนุษย์จึงต้องเปลี่ยนวิธีเดินของพวกเขา
เราจึงเริ่มเดินในลักษณะที่ก้าวยาวขึ้น และมันส่งผลต่อส้นเท้าก่อน เนื่องจากเราไม่ได้เดินโดยให้เท้ามีขั้นตอนในการเคลื่อนตัวของมัน เท้าจึงหมดความยืดหยุ่นในการโค้งงอ รวมทั้งรองเท้าเป็นตัวจำกัดการเคลื่อนไหวของนิ้วเท้าของเรา ซึ่งปกติการทำงานของพวกมันคือดันเมื่อเราจะยกขาขึ้นจากพื้น
ผลการศึกษาเมื่อปี 2007 เป็นการเปรียบเทียบคนที่ใส่รองเท้าเดินกับคนที่เดินด้วยเท้าเปล่า พบว่าคนที่เดินเท้าเปล่ามีผลกระทบที่หัวเข่าน้อยกว่าถึง 12%
แน่นอนว่าการเดินเท้าเปล่าทุกวันนี้เราทำได้ไม่บ่อยนัก แต่นี่อาจเป็นข้อโต้แย้งที่ดีในการที่คุณจะหาเวลาเดินด้วยเท้าเปล่าบ้าง
แล้วเท้าของคุณจะขอบคุณคุณ
ที่มา: Flipboard
เรียบเรียง: SignorScience