11 รูปภาพที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของรถบินได้ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
มนุษย์เราฝันถึงรถที่บินได้ตั้งแต่อดีตมานานกว่าศตวรรษ ถึงแม้เทคโนโลยีความก้าวหน้าต่างๆจะเพิ่มมากขึ้น แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถผลิตรถบินได้ที่จะสามารถนำมาใช้ในชีวิตจริงได้สำเร็จเลย แต่เมื่อเทียบจากอดีตซึ่งดูราวกับว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะสร้างรถที่บินได้ ปัจจุบันพวกเรากำลังเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกวัน มาดูวิวัฒนาการของรถบินได้ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
1) 1904 – JULES VERNE’S “TERROR”
หนึ่งในตัวอย่างแรกๆของรถบินได้ซึ่งพบจากนักเขียนชาวฝรั่งเศสนามว่า จูลส์ เวิร์น ผู้บุกเบิกการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์สมัยแรกๆ ซึ่งรถบินได้อยู่ในนิยายเล่มสุดท้ายที่เขาเขียนชื่อ Master of the World โดยในเรื่องตัวเอกของนิยายเป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะที่สร้างสิ่งประดิษฐ์ชื่อ “The Terror” เป็นยานพาหนะยาว30ฟุตซึ่งมันไม่ใช่แค่รถหรือเครื่องบินแต่มันยังเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบกที่สามารถลงน้ำได้ด้วยเช่นกัน
2) 1917 – THE CURTISS AUTOPLANE
หนึ่งในความพยายามในช่วงสมัยแรกๆของโลกในการผลิตรถบินได้โดยผู้ริเริ่มด้านการบินนามว่า Glenn Curtiss เขาได้พยายามที่จะสร้างรถบินได้คันแรกซึ่งมีที่นั่ง3ที่ โดยมีที่สำหรับนักบินผู้ขับอยู่ข้างหน้าและสองที่ข้างหลังสำหรับผู้โดยสาร เครื่องยนต์100แรงม้าสามารถทำให้มันลอยได้แต่โปรเจคต้องถูกยกเลิกไปก่อนเพราะสหรัฐประกาศเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่1
3) 1946 – THE FULTON AIRPHIBIAN
เครื่องบินหกสูบที่รูปร่างเหมือนเครื่องบินและมีฐานรองรับเหมือนรถซึ่งปีกของมันสามารถถอดออกได้ ออกแบบโดย Robert Edison Fulton Jr.ซึ่งได้แนวคิดจากการเปลี่ยนรถให้กลายเป็นเครื่องบิน แต่ด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจเป็นผลทำให้ไม่สามารถนำมาสู่การผลิตจริงได้ จึงเป็นเพียงแค่ตัวต้นแบบ
4) 1947 – HENRY DREYFUSS CONVAIRCAR
จะเป็นอย่างไรถ้าหากรถบินได้นั้นเป็นเพียงแค่รถธรรมดาทั่วไปเพียงแต่นำปีกของเครื่องบินมาติดให้มัน? ด้วยปีกที่กว้างถึง35ฟุตหรือ10.6เมตรที่สามารถถอดออกจากหลังคารถ4ที่นั่งได้เมื่ออยู่บนพื้นดิน ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดีแต่สุดท้ายต้องจบลงด้วยหายนะในตอนทดลองบินครั้งแรก นั่นคือเครื่องตกและทำให้นักบินเสียชีวิต
5) 1957 – PIASECKI VZ-8 AIRGEEP
กองทัพก็เป็นอีกหน่วยงานที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับรถบินได้ กองทัพของสหรัฐจึงได้มอบหมายหน้าที่ให้กับวิศวกรออกแบบรถจี๊ปที่บินได้ ใช้ปฏิบัติการอยู่บนพื้นดินแต่สามารถลอยข้ามสิ่งกีดขวางได้ ซึ่งวิศวกรชื่อ Piasecki ได้ออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแต่ภายหลังพบว่ามันไม่เหมาะกับการใช้ในสนามรบจริง
6) 1980S – THE BOEING SKY COMMUTER
การออกแบบล้ำสมัยในปี1980โดย Aerospace Giant Boeing ได้รับคำชมจากหลายฝ่ายว่าเป็นสิ่งที่หลายๆคนฝันถึงเมื่อนึกถึงรถบินได้ การออกแบบที่ดูโฉบเฉี่ยว สามารถออกตัวในแนวตั้ง การตกแต่งภายในที่ดูมีพื้นที่ นอกจากนั้นยังไม่ต้องติดหรือถอดปีกเมื่อจะใช้งาน ทำให้ดูเป็นรถที่มีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม สุดท้ายโปรเจคนี้ต้องถูกยุบไปเนื่องจากต้นทุนบานปลายไปกว่า 6ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าเครื่องบินในสมัยนั้น
7) ONGOING – THE MOLLER SKYCAR
มาถึงยุคปัจจุบัน บริษัท Moller International มีความชำนาญมากกว่า15ปีด้านยานพาหนะที่ออกตัวหรือจอดในแนวตั้ง และกำลังพยายามที่จะผลิตรถบินได้ ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้กับรถบินได้
8) PRESENT – PAL-V ONE
Pal-V One (Personal Air and Land Vehicle) หรือยานพาหนะที่ทั้งขับเคลื่อนได้ทั้งบนอากาศและบนดิน ถูกออกแบบมาให้มี3ล้อ ซึ่งมีใบพัดอยู่ข้างบน สามารถออกตัวได้เหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ และด้วยล้อที่ใหญ่รวมถึงรูปทรงของมันทำให้สามารถขับได้เหมือนกับมอเตอร์ไซค์ บริษัทวางแผนที่จะเปิดตัวในปี2018
9) FUTURE – PROJECT VAHANA
บริษัทAirbusผู้ผลิตเครื่องบินได้วางแผนเมื่อตอนต้นปีนี้สำหรับการเดินทางในอาคตภายในเมืองโดยใช่ชื่อว่า Project Vahana โดยบริษัทAirbusได้วางแนวการผลิตและพัฒนาในแนวทางเทคโนโลยีแบบโดรน ซึ่งจะมีใบพัด8ใบพัดที่คากว่าจะใช้พลังงานน้อยโดยใช้หลักการอากาศพลศาตร์มาช่วย
10) 2018 – AEROMOBIL
การนำแนวคิดในยุคก่อนที่เกี่ยวกับเรื่องปีกที่พับได้มาปรับใช้ใหม่โดยบริษัท Slovak Flying car ผู้พัฒนารถบินได้ AeroMobil ที่กำลังพยายามทำให้มันใช้ได้จริงโดยใช้พลังงานจากน้ำมันเหมือนรถทั่วไป ต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างเรียบและมียาวประมาน200-300เมตรสำหรับการออกตัวหรือลงจอด เคยถูกนำขึ้นทดลองบินแล้วในปี2013และ2014 การทดลองสำเร็จด้วยดีทั้ง2ครั้ง โดยบริษัทวางแผนที่จะเปิดตัว AeroMobil ภายในปี2018
11) 2027 – XPLORAIR PX200
อีกตัวอย่างของยานพาหนะที่ออกตัวและลงจอดในแนวตั้งที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทัพฝรั่งเศสสำหรับการสร้าง XPLORAIR PX200 โดยจะใช้เครื่องยนต์เจ็ทขนาดเล็กติดตั้งอยู่ในตัวปีก ถือเป็นการบอกลาเครื่องยนต์ใบพัดแบบเก่าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะนำออกสู่ตลาดได้ในปี2027
ที่มา: Futurism
เรียบเรียง: SignorScience