วิธีการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

สุขภาพ

การปฎิบัติง่ายๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ ลองดื่มน้ำให้มากขึ้น


โรคปัสสาวะอักเสบ ทำให้เจ็บปวดเวลาปัสสาวะ และมันเกิดขึ้นกับผู้คนในวงกว้าง นักวิทยาศาสตร์ประมาณการณ์ว่าระหว่าง 40 ถึงมากกว่า 50% ในชีวิตของผู้หญิงจะมีการอักเสบนี้ และจำนวน 1 ใน 4 จะมีการอักเสบซ้ำ หากไม่ได้รับการรักษาก็อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไตได้

โดยทั่วไปน้ำ แครนเบอร์รี่เป็นมาตรการป้องกันที่บ้าน งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสารประกอบในแครนเบอร์รี่สามารถช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ แต่การศึกษาอื่นๆ สรุปได้ว่าน้ำผลไม้ไม่ได้ช่วยผู้ที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นประจำ

แต่อาจมีวิธีเก่าแก่ ที่ง่ายๆไม่ต้องใช้ยาเพื่อลดการอักเสบเหล่านี้ นั่นคือการดื่มน้ำให้มากขึ้น 

การศึกษาที่นำเสนอที่ในซานดิเอโกซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อพบว่า การดื่มน้ำมากขึ้นมีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะในสตรีที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคนี้ และยังส่งผลให้แพทย์ที่ออกใบสั่งยาปฏิชีวนะในสตรีเหล่านี้ลดลงถึง 47 %

การวิจัยได้รับทุนจากการค้นคว้าของ ดาน่อน (Danone Research) ซึ่งดาน่อนยังขายน้ำดื่มบรรจุขวดเช่น เอเวียง (Evian) แต่ ด๊อกเตอร์โทมัส ฮูตัน (Dr. Thomas Hooton) หัวหน้าฝ่ายการศึกษาและผู้อำนวยการคลินิกของกองโรคติดเชื้อที่มหาวิทยาลัยไมอามีกล่าวว่าข้อสรุปของการศึกษานี้ไม่ใช่เฉพาะกับน้ำของดาน่อนเท่านั้น

การวิจัยได้ศึกษาเฉพาะสตรี วัยก่อนหมดประจำเดือน 140 คนที่ประเทศบัลแกเรีย ที่มีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นประจำ ซึ่งมีมากกว่า 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา สตรีเหล่านี้ดื่มน้ำน้อยกว่า 1.5 ลิตร (ประมาณ 6 แก้ว) ในแต่ละวัน ตลอดทั้งปี ครึ่งหนึ่งของสตรีเหล่านี้ได้ลองเพิ่มปริมาณน้ำดื่มเป็นประจำทุกวันให้มากกว่าเดิม ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งไม่เปลี่ยนปริมาณการดื่มน้ำ ซึ่งพบว่าสตรีที่ดื่มน้ำมากขึ้น มีการลดของอัตราการอักเสบเกือบครึ่ง 

การวิจัยยังไม่ได้รับการเสนอให้ตีพิมพ์ แต่ความคิดในการดื่มน้ำเพื่อป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี้ ไม่ได้สร้างความตกใจกับแพทย์ทั่วไป จากคำแนะนำของด๊อกเตอร์ แอนโธนี่ เซฟเฟอร์ (Dr. Anthony Schaeffer) ศาสตราจารย์ทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะของมหาลัยน๊อทเวสเทิร์น (Northwestern University) ผู้ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยนี้กล่าวว่า “งานศึกษาชิ้นนี้ช่วยทำให้สิ่งที่แพทย์รู้กันอยู่กลายเป็นคำพูดทางวิทยาศาสตร์” และเสริมว่า “สิ่งที่ดีเกี่ยวกับการศึกษานี้ คือการแสดงให้เห็นถึงบางสิ่งที่ดูสมเหตุสมผล”

 

ที่มา: NPR
เรียบเรียง: SignorScience