แคลอรี่ กับ อาหาร

คำว่า แคลอรี่ (Calories) ที่เราพบได้ตามฉลากอาหารใช้บ่งบอกปริมาณพลังงานของอาหารนั้น สมัยก่อนถูกใช้กันในหมู่นักเคมีเพียงอย่างเดียวและการคุมอาหารยังไม่แพร่หลาย

คนทั่วไปยังไม่เข้าใจวิธีการลดน้ำหนักมากนัก จนกระทั่งปี 1910 นักโภชนาการหญิง Lulu Peters ได้นำมาปรับใช้กับการคุมอาหารโดยนำเสนอว่า ”แทนที่จะบอกว่าเราทาน ขนมปังหนึ่งแผ่น และ พายหนึ่งชิ้น ให้เปลี่ยนเป็น เราทานขนมปัง 100 แคลอรี่ และ พาย 350 แคลอรี่ ตั้งแต่บัดนี่คุณกำลังทานอาหารที่มีแคลอรี่ นั่นเอง” และเธอได้สอนผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักว่า “พวกคุณต้องทานอาหารให้น้อยกว่าที่ร่างกายคุณจะสามารถเผาผลาญได้”

 

การคุมอาหาร จะคำนวนจากพลังงานที่ต้องการต่อวัน สำหรับผู้ที่ทำงานออฟฟิสจะอยู่ที่ 1800-2000 แคลอรี่ สำหรับผู้ชาย และ 1500-1800 แคลอรี่ สำหรับผู้หญิง แต่ในทางปฏิบัติแล้วการเลือกทานอาหารที่มีแคลอรี่เท่ากัน ต้องดูว่าในตัวเลือกนั้นมีคุณค่าทางอาหารมากน้อยต่างกันอย่างไร อาหารที่เป็นจำพวกแป้งและน้ำตาลจะให้พลังงานที่มากในปริมาณที่น้อย จะทำให้หิวบ่อย หิวง่าย ต่างจากอาหารจำพวกโปรตีนและไฟเบอที่จะทำให้รู้สึกอิ่มนานกว่า แคลอรี่ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าอาหารที่คุณกินนั้นมีประโยชน์หรือไม่แต่เพียงแค่บอกถึงปริมาณพลังงานที่ได้ เพราะฉะนั้นการเลือกรับประทานอาหารควรคำนึงถึงจุดนี้ด้วย

 

 

ที่มา: businessinsider.com
เรียบเรียง: SignorScience