เดฌา-วูว์ (Déjà vu) ตอนที่2
นอกจากปรากฏการณ์เดฌา-วูว์ (Déjà vu) ซึ่งแปลว่า ‘เคยเห็นมาแล้ว’ ยังมีปรากฏการณ์อื่นที่ใกล้เคียงกับปรากฏการณ์นี้อีก 4 ปรากฏการณ์ด้วยกัน
1. ฌาแม-วูว์ (Jamais vu) มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ‘ไม่เคยเห็น’ ซึ่งตรงข้ามกับเดฌา-วูว์ เกิดขึ้นเมื่อบางสิ่งบางเหตุการณ์ที่เราคุ้นเคยหรืออาจจะรู้จักเป็นอย่างดี แต่ในขณะนั้นเองเรากลับรู้สึกว่าสิ่งนั้นๆกลายเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด เป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำ ไม่เคยเห็น หรือไม่เคยผ่านมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น บางคนอาจจะเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเองเมื่อเราเจอคำศัพท์คำหนึ่งและเราพยายามพูดและคิดคำๆนั้นซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆจนถึงขณะหนึ่งเราจะเริ่มรู้สึกว่า คำนี้เป็นคำที่แปลกๆ คำนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ส่งผลให้คำศัพท์นั้นๆจะเริ่มสูญเสียความหมายของตัวมันเอง จนเราอาจจะลืมความหมายของมันไปด้วย ส่วนมากจะเกิดกับคำสองพยางค์ อธิบายได้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดจาก เมื่อเรากระตุ้นสื่อประสาทด้วยคำศัพท์นัั้นอย่างต่อเนื่อง จนมันเริ่มปิดกันสิ่งนั้นๆ อีกตัวอย่างที่ทดลองจากมหาวิทยาลัยลีดส์ (University of Leeds) ซึ่งให้ผู้ร่วมทดลอง 95คน เขียนคำว่าประตู (Door) 30 ครั้ง ภายใน 1นาที ผลปรากฏว่าเกิดฌาแม-วูว์กับ68%ของผู้ร่วมทดลอด โดยที่พวกเขาสงสัยว่าคำว่า ประตู(Door) ที่พวกเขาเขียนนั้นเป็นคำที่ถูกต้องและมีความหมายจริงหรือเปล่า การทดลองนี้ชื่อ วูว์ฌาเด-เวฌาดู “vuja de” and “véjà du”
2. เพรสเคอะ วู (presque vu) แปลว่า ‘เกือบเห็น’ เป็นอาการที่เราเคยเห็นสิ่งๆนั้นแต่เกือบจะจำได้ว่ามันคืออะไร แต่ให้นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก หรือเป็นปรากฏการที่เราเรียกว่า ‘ติดอยู่ที่ปลายลิ้น (Tip of the Tongue)’ เช่นเราจำดาราคนหนึ่งได้เป็นคนที่เราชอบมากแต่เมื่อมีคนมาถามว่าเขาชื่ออะไร เรากลับลืมแต่รู้ว่าตัวเองจำได้ แต่นึกอย่างไรก้นึกไม่ออกมันติดอยู่ที่ปลายลิ้นนั่นเอง แต่ผ่านไปสักพักเราอาจจะจำได้ขึ้นมาเองเฉยๆ
3. เดฌา องตงดู (Déjà entendu) แปลว่า ‘เคยได้ยิน’ เป็นความรู้สึกที่ว่าเราเคยได้ยินสิ่งๆนี้มาก่อนไม่ว่าจะเป็น ประโยคคำพูดหรือเนื้องร้องท่อนหนึ่งของเพลง ถึงแม้ว่าจะไม่รู้หรือจำไม่ได้ว่าได้ยินมาตอนไหน
4. เดฌา เวคู (Déjà vécu) หมายถึง เมื่อเรารู้สึกว่าเราได้ผ่านเรื่องราวต่างๆมาแล้ว และแม้แต่จดจำรายละเอียดต่างๆของเหตุการณ์นั้นๆได้ด้วย แต่ทั้งหมดนั่นคือเป็นเพียงแค่ความคิดว่าเราได้ประสบเหตุการณ์นั้นๆมา
เรียบเรียง: SignorScience